บทที่ 137 พวกเราแต่งงานกันเถิด ตอนที่1
“อู๋เฉิน ที่นางพูดเป็นเรื่องจริงหรือ?” มู่หรูเยว่ยกศีรษะขึ้นจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม นัยน์ตาของนางฉายแววประหลาดใจ
เย่อู๋เฉินดึงร่างของเด็กสาวมากอดโดยให้ศีรษะของนางซบที่แผ่นอกของเขา เขาใช้นิ้วเรียวยาวลูบผมสีดำขลับของนาง มุมปากของเขาพลันคลี่ยิ้มออกมา
“มู่เอ๋อร์ เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวลไป ให้เป็นหน้าที่สวามีเจ้าเถิด”
มู่หรูเยว่ซบแผ่นอกเขาอย่างเงียบเชียบ ชั่วขณะนั้น นางได้ยินถึงเสียงหัวใจที่เต้นอย่างมั่นคง ยามที่นางอยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นราวกับมีกระแสความอบอุ่นส่งผ่านมาที่หัวใจ
นางมีสิทธิพิเศษอันใดจึงได้รับการปฎิบัติเช่นนี้จากเย่อู๋เฉิน?
“อู๋เฉิน” นางค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม พลางเอ่ยเสียงอ่อนโยน “พวกเราแต่งงานกันเถิด...”
ความเงียบเข้าปกคลุม...
ทั่วทั้งห้องพลันเงียบสงัด และเต็มไปด้วยบรรยากาศไม่คุ้นชิน
เย่อู๋เฉินตกตะลึงไปชั่วขณะ เขารู้สึกแปลกใจอย่างมากจึงได้แต่จ้องมองมู่หรูเยว่อย่างโง่งม “มู่เอ๋อร์ เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ? ช่วยพูดอีกครั้งหนึ่งได้หรือไม่?”
มู่หรูเยว่กลั้วหัวเราะ พลันเอ่ยอีกครั้งหนึ่ง “ข้าบอกว่า พวกเราแต่งงานกันเถิด”
ครั้งนี้เย่อู๋เฉินมั่นใจแล้วว่าเขาไม่ได้หูฝาดไปเอง เขากอดมู่หรูเยว่อย่างตื่นเต้น ใบหน้าหล่อเหลานั้นฉายแววยินดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“มู่เอ๋อร์ เจ้ายอมแต่งให้ข้าแล้วหรือ? ในที่สุดเจ้าก็ยอมแต่งงานกับข้าแล้ว? อย่างนั้นพวกเราแต่งงานกัยเดี๋ยวนี้เลยเถิด ข้าจะให้คนไปจัดเตรียมสถานที่ประกอบพิธี”
เมื่อได้เห็นสีหน้าตื่นเต้นของชายหนุ่ม มู่หรูเยว่ยิ่งรู้สึกขบขันขึ้นมา “เหตุใดต้องรีบร้อนเพียงนี้ด้วย? การแต่งงานต้องจัดเตรียมมากมาย เช่น วันเดือนปีเกิด ฤกษ์มงคล ยังมี...”
คำพูดต่อจากนั้นของนางถูกหยุดด้วยจุมพิตของเย่อู๋เฉิน
แพขนตาของมู่หรูเยว่สั่นไหวเล็กน้อยก่อนค่อยๆหลับตาลง มือทั้งสองโอบเอวของชายหนุ่มอย่างแนบแน่น มัวเมากับจุมพิตที่เต็มไปด้วยความเสน่หาไม่รู้จบ
เย่อู๋เฉินกังวลว่าจะทำให้นางเจ็บ จุมพิตของเขานั้นจึงอ่อนโยนและระมัดระมังอย่างมาก เขาละเลียดชิมความหอมหวานจากเด็กสาว ฝ่ามือใหญ่ลูบแผ่นหลังของนางสัมผัสอุณหภูมิของร่างเด็กสาวผ่านทางเนื้อผ้าบางๆ
หญิงสาวผู้นี้คือผู้หญิงที่เขาจะปกป้องไปชั่วชีวิต เพียงเพื่อนางแล้ว ไม่ต้องพูดถึงละทิ้งแผนการทั้งหมดที่วางไว้ ต่อให้ต้องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน แล้วอย่างไร?
“มู่เอ๋อร์” เย่อู๋เฉินค่อยๆปล่อยร่างเด็กสาวในอ้อมกอด พลันคลี่ยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ นัยน์ตาของเขาแฝงไปด้วยความรักใคร่อ่อนโยน พลางเอ่ย “ชั่วชีวิตนี้ ข้า เย่อู๋เฉิน จะไม่ทำให้เจ้าเสียใจเป็นอันขาด”
มู่หรูเยว่เงยหน้ามองเขา พลันกลั้วหัวเราะ “ข้าเชื่อท่าน หากวันหนึ่งท่านผิดคำสัญญา ข้าไม่ถือที่จะหย่าขาดจากท่าน สามีของข้า มู่หรูเยว่ ชั่วชีวิตนี้มีข้าได้เพียงคนเดียว ไม่เสเพลเกลือกกลั้วกับเชื้อโรคไปทั่ว ข้าไม่ต้องการให้ผู้ชายที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคอยู่เคียงข้างข้า หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ข้าคงทำได้แค่เพียงหย่าขาดเท่านั้น”
เย่อู๋เฉินลูบเรือนผมของนาง และก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอีกครั้งหนึ่ง เขาดูต่างกับเทพอสูรไร้หัวใจเมื่อยามเผชิญหน้ากับเตี๋ยอีโดยสิ้นเชิง เขาในยามนี้มีเสน่ห์สะกดสายตา อ่อนโยนเสียจนหลอกล่อให้ผู้คนหลงในมนต์เสน่ห์ของเขา
“สวามีเจ้าไม่เปิดโอกาสให้เจ้าได้หย่าขาดหรอก ชั่วชีวิตนี้ นอกจากเจ้าแล้ว จะมีหญิงอื่นในสายตาได้อย่างไร? ชั่วชีวิตนี้มีเพียงเจ้าคนเดียวก็พอแล้ว”
นัยน์ตาของเขาดูอ่อนโยนราวกับสายน้ำ สายตานี้มีไว้เพื่อหญิงสาวคนเดียวเท่านั้น
มู่หรูเยว่พลันรู้สึกประทับใจขึ้นมา นางเอนร่างพิงแผ่นอกของชายหนุ่ม นางคลี่ยิ่มพลางเอ่ย “อู๋เฉิน ท่านเป็นผู้ชายประเภทที่ไม่หวั่นไวกับหญิงคนใดง่ายๆ เหตุใดท่านถึง…”
นางไม่ได้เอ่ยต่อ แต่ถึงอย่างนั้นเย่อู๋เฉินก็เข้าใจความคิดของนาง
posted from Bloggeroid
เหมือนคนสองบุคลิก นางเอกคงสับสนเล็กน้อย 55555 นางเอกเราแมนน้า ขอพระเอกแต่งงานด้วย อิอิ
ReplyDeleteชายแบ๋วทำเป็นอ่อยให้นางขอแต่งงาน55556
ReplyDeleteชอบคห.นี้จังค่ะ555555
Deleteฉากนี้หวานมาก จนมดไต่ แต่ข้ามไปติดเรตเลยได้มะ-- อุ้ย เผลอคิดดังไป ถถถถถถถ
ReplyDeleteนางเอกกล้ามาก ขอแต่งงานเลยย
ReplyDeleteสงสารเตี๋ยอี
ReplyDeleteอู่เฉินต้องทำตามสัญญาให้ได้น่ะ กลัวจะมีเหตุให้อู่เฉินต้องผิดสัญญา เพราะเรื่องศัตรูผู้หญิงที่ชายในมิติได้เตือนไว้
ReplyDeleteเฉินเฉินได้แต่งงานแล้วววว
ReplyDeleteในที่สุดหรูเย่วก็ใจอ่อน