บทที่ 54 ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ ตอนที่5
"หึหึ ที่จริงแล้วทุกคนต่างก็รู้จุดประสงค์ของตระกูลมู่ดี" อู๋หวีลูบเคราสีขาวของตน คลี่ยิ้มพลางเอ่ยต่อ
"เพราะการประลองเดี่ยวเอาชนะคนทั้งกลุ่มของเจ้า รวมไปถึงเอาชนะผู้ฝึกวิทยายุทธขั้นห้าอย่าง มู่ถิงเอ๋อร์ ผู้อาวุโสในสำนักชิงหยุนมากมายต่างก็ต้องการรับเจ้าเป็นศิษย์ อีกทั้งเจ้าสามารถพัฒนามาถึงขั้นนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งยา หากได้เข้าร่วมกับสำนักชิงหยุนพัฒนาการของเจ้าจะยิ่งก้าวกระโดด ที่สำคัญไปกว่านั้นผู้คนต่างก็ให้ความสนใจวิชากระบี่ที่เจ้าใช้ ในเมื่อตระกูลมู่สูญเสียโอกาสที่จะเกี่ยวดองกับสำนักชิงหยุนด้วยการแต่งงานไปแล้ว พวกเขาย่อมต้องการเจ้า"
มู่หรูเยว่คลี่ยิ้ม รูปลักษณ์อันโดดเด่นของนางดูมีชีวิตชีวาด้วยรอยยิ้มนั้น หากแต่ทั่วร่างของนางกลับแผ่กลิ่นอายเยือกเย็นออกมา สร้างความกังวลให้อู๋หวี เขานึกสงสัยว่าเหตุใดเด็กสาวจึงได้มีท่าทีเย็นชาถึงเพียงนี้?
"ข้าไม่ใช่คนของตระกูลมู่ พวกเขาบังคับข้าไม่ได้"
ถึงอย่างไรมู่หรูเยว่ตัวจริงก็เสียชีวิตไปแล้ว นางเป็นแค่วิญญาณที่พลัดมายังดินแดนแห่งนี้โดยไม่ตั้งใจ
"วางใจเถอะ มีข้าอยู่ทั้งคน ผู้ใดกล้าแย่งชิงลูกศิษย์ของข้า" อู๋หวีลูบเคราตัวเอง พลางเอ่ยอย่างมั่นใจ
หากพวกเขารับรู้ว่ามู่หรูเยว่เป็นลูกศิษย์ของอู๋หวี อย่าว่าแต่ขโมยลูกศิษย์ของเขาเลย ผู้ใดกล้าแสดงท่าทีต้องการรับนางเป็นศิษย์บ้าง
ท่านอาจารย์อู๋หวีเป็นใครกัน? เขาไม่ใช่คนมีเหตุผล หากเขาโกรธต่อให้เป็นเจ้าสำนักชิงหยุนก็ไม่มีข้อยกเว้น
มู่หรูเยว่ได้กำไรจากการมาพบอู๋หวีในวันนี้ บัวหิมะเก้ากลีบนับเป็นสมบัติล้ำค่า ถึงแม้จะแตกต่างเพียงแค่จำนวนกลีบ แต่สรรพคุณของมันเหนือกว่าบัวหิมะแปดกลีบอยู่หลายเท่าตัว
หลังสนทนากันต่อพอเป็นพิธี มู่หรูเยว่ก็ขอตัวกลับ ระหว่างทางกลับบ้าน นางถูกพ่อบ้านตระกูลมู่ มู่เหรินกุ้ย พบเห็นเข้าพอดี
มู่เหรินกุ้ยมาจัดการธุระที่ถนนหวนหยวน และเห็นมู่หรูเยว่เดินเข้าไปในบ้านด้วยความบังเอิญ ตัวอักษรถูกเขียนไว้เพียงสองคำ 'เรือนมู่' ตั้งอยู่เหนือประตูบ้าน เปล่งประกายสีทองภายใต้แสงแดด
ช่วงที่ผ่านมามู่ชิงส่งคนออกตามหาที่อยู่ของมู่หรูเยว่จนทั่ว แต่ใครจะคาดคิดว่านางอยู่ในสถานที่ที่คาดไม่ถึงที่สุด?
ถนนหวนหยวนเป็นสถานที่แบบไหนกัน? บ้านพักที่นี่ต่อให้มีเงินทองมหาศาลก็หาซื้อไม่ได้ แม้แต่ตระกูลมู่เองก็ยังไม่สามารถเป็นเจ้าของสถานที่เงียบสงบเช่นนี้
ทันทีที่มู่เหรินกุ้ยเห็นเช่นนี้ เขาก็รีบร้อนกลับไปรายงานต่อมู่ชิง
"เจ้าว่าอย่างไรนะ?" มู่ชิงยกมือตบโต๊ะ นัยน์ตาเปล่งประกายที่อ่านไม่ออก "เหตุใดมู่หรูเยว่ถึงอยู่ที่นั่นได้? หรือว่าฝ่าบาทจะยกบ้านให้นางเป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะการประลอง?"
ในตอนนี้ มู่ชิงสามารถคิดถึงความเป็นไปได้ออกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
"ตามข้ามา ข้าจะไปพบมู่หรูเยว่" มู่ชิงสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะออกคำสั่ง
ในตอนนั้นมู่อี้เสี่ยพลันวิ่งออกมาจากห้องด้านใน นางกอดแขนมู่ชิง ใบหน้าสวยคลี่ยิ้มออดอ้อน "ท่านพ่อ ข้าอยากไปด้วย"
มู่ชิงขมวดคิ้ว จ้องมองท่าทางกระตือรือร้นของบุตรสาว "ถ้าเจ้าไป ห้ามทำให้พี่สาวเจ้าโกรธเด็ดขาด ครั้งนี้เราต้องลดตัวเกลี้ยกล่อมให้นางยอมกลับมา"
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำเขาให้มั่นใจได้ว่า ตระกูลมู่และสำนักชิงหยุนได้สานสัมพันธ์กัน
"ท่านพ่อ วางใจเถอะ เสี่ยเอ๋อร์จะเชื่อฟังทุกอย่างที่ท่านพูด ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้นัง..." เมื่อเห็นสายตาไม่พอใจของมู่ชิง มู่อี้เสี่ยจึงรีบเปลี่ยนคำพูด "ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้พี่ใหญ่โกรธ"
"เพราะการประลองเดี่ยวเอาชนะคนทั้งกลุ่มของเจ้า รวมไปถึงเอาชนะผู้ฝึกวิทยายุทธขั้นห้าอย่าง มู่ถิงเอ๋อร์ ผู้อาวุโสในสำนักชิงหยุนมากมายต่างก็ต้องการรับเจ้าเป็นศิษย์ อีกทั้งเจ้าสามารถพัฒนามาถึงขั้นนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งยา หากได้เข้าร่วมกับสำนักชิงหยุนพัฒนาการของเจ้าจะยิ่งก้าวกระโดด ที่สำคัญไปกว่านั้นผู้คนต่างก็ให้ความสนใจวิชากระบี่ที่เจ้าใช้ ในเมื่อตระกูลมู่สูญเสียโอกาสที่จะเกี่ยวดองกับสำนักชิงหยุนด้วยการแต่งงานไปแล้ว พวกเขาย่อมต้องการเจ้า"
ขอบคุณมากค่ะ
ReplyDeleteสนุกมากค่า ขอบคุณไรท์มากๆนะคะ
ReplyDeleteเพิ่งเห็นว่าตั้งเวลาอัพผิด เลยโพสตอนตีหนึ่ง ฮ่าๆๆ >\\\<
ReplyDelete😳😳😳
ReplyDeleteอู๋เฉินนี่คือ ใสซื่อต่อหน้านางเอกจนเราเริ่มจะคล้อยตามล่ะนะ
ReplyDeleteหลี่ลู่จะกลายเป็นสหายนางเอกไหมเนี่ย
ขอบคุณนะคะ
ละครนี้น่าชมนัก ตลกดี 555+
ReplyDeleteได้เหยียนจิ้งเป็นสัตว์อสูรรับใช้
ReplyDeleteหมอชื่อดังอู๋เสียเป็นอาจารย์
ได้ลูกแม่ทัพใหญ่หลี่ลู่เป็นเบ๊
ได้ตานกุ่ยเป็นคู่หมั้น
มาแป๊บเดียว หาพวกได้เพียบเลย