หมอยาเจ้าเสน่ห์: จอมใจราชาปีศาจ
บทที่ 79 เฟิ่งจิงเทียน จอมเจ้าเล่ห์ ตอนที่1
"องค์ชายฮวา? เย่อี้ฮวาน่ะหรือ?" นัยน์ตาของมู่หรูเยว่เปล่งประกายเย็นชา "เป็นเขานั่นเอง อู๋เฉิน ต่อไปเจ้าต้องอยู่ห่างๆเขา แม้แต่หน้าก็อย่าไปมอง ไม่อย่างนั้นเขาจะทำให้เจ้าเสียคนไปด้วย"
องค์ชายฮวาผู้น่าสงสาร ยังไม่ทันได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็โดนมู่หรูเยว่คาดโทษเสียแล้ว
"ไม่ว่าชายาพูดอะไรข้าย่อมเชื่อฟังเสมอ" เย่อู๋เฉินคลี่ยิ้มออกมา ดวงตาของเขาเปล่งประกายเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ ถึงขนาดสามารถหลอมละลายหัวใจที่เย็นชาดุจน้ำแข็งของมู่หรูเยว่
ยิ่งไปกว่านัยน์ตาของเขาช่างดูใสซื่อเหลือเกิน...
"อู๋เฉิน ในระหว่างที่ข้าไม่อยู่เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี" มู่หรูเยว่จับมือของเย่อู๋เฉิน พลางคลี่ยิ้ม "ข้าให้สัญญาว่าจะรีบกลับมา"
เย่อู๋เฉินจ้องมองเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขานึกอยากเก็บซ่อนนางเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น แต่เขาก็รู้ดีว่าเด็กสาวผู้นี้ถูกลิขิตมาให้เปล่งประกาย
เย่อู๋เฉินก้าวเดินมาข้างหน้า กุมมือของมู่หรูเยว่เอาไว้ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเผด็จการแต่ก็แฝงด้วยความเอาแต่ใจราวกับเด็ก "ชายา เจ้าเป็นของข้า... เจ้าเป็นของข้าตลอดไป"
มู่หรูเยว่คลี่ยิ้มไม่เก็บคำพูดของเขามาใส่ใจนัก มีหลายครั้งที่การกระทำของเย่อู๋เฉินทำให้จิตใจของนางว้าวุ่น แต่นางมองเขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง
ดังนั้นนางจึงไม่ใส่ใจกับคำพูดของเขามากนัก เพียงคิดว่าเป็นคำพูดของเด็กที่ไม่อยากพรากจากครอบครัว
บางทีความสำคัญของเย่อู๋เฉินในจิตใจส่วนลึกของนางนั้นเริ่มเปลี่ยนไปโดยที่นางไม่รู้ตัว ถึงแม้มู่หรูเยว่เคยผ่านประสบการณ์มามากมายจากชาติก่อน แต่เรื่องความสัมพันธ์นั้นเรียกได้ว่าเป็นศูนย์
เมื่อจ้องมองร่างของมู่หรูเยว่เดินจากไป นัยน์ตาใสบริสุทธิ์ของเย่อู๋เฉินค่อยๆเลือนหายไปและแทนที่ด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความชั่วร้าย
มุมปากของเขาคลี่ยิ้ม พลางใช้นิ้วเรียวยาวลูบริมฝีปากของตน รอยยิ้มนั้นยิ่งทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูสะกดสายตา
"ดูเหมือนข้าต้องพยายามมากกว่านี้ จึงจะได้รับความรักจากนาง..."
////////
ภายในคฤหาสน์มู่ มู่อี้เสี่ยลุกขึ้นกะทะหันส่งผลให้เก้าอี้ครูดไปกับพื้น นัยน์ตาของนางเป็นประกาย "เจ้าพูดจริงหรือ? นังสารเลวมู่หรูเยว่เดินทางออกจากเฟิ่งเฉิง? เยี่ยมมาก ข้าจะทำให้นางไม่มีวันได้กลับมาอีก!"
ในขณะที่นางกล่าวประโยคนั้น ใบหน้าที่น่ารักน่าเอ็นดูของนางแสดงออกถึงความชั่วร้าย
เกลียด... นางจะไม่เกลียดมู่หรูเยว่ได้อย่างไร?
นางยังไม่ลืมเหตุการณ์ในวันนั้น ท่านพ่อกับเธอสู้อุตส่าห์ไปตามนางกลับบ้าน ใครจะรู้ว่านังสารเลวนั่นกลับทำให้นางอับอายต่อหน้าชายหนุ่มที่นางหลงรัก...
"แต่ว่า คุณหนู..." สาวใช้ของนางรู้สึกลังเลใจ คุณหนูใหญ่เป็นพี่สาวร่วมสายเลือดของคุณหนูสาม ทั้งสองต่างก็เกิดจากมารดาคนเดียวกัน ไม่รู้ว่าเหตุใดคุณหนูสามกลับรังเกียจคุณหนูใหญ่ถึงเพียงนี้?
"เจ้าออกไปได้แล้ว เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องยุ่งอีก ห้ามเจ้าไปรายงานท่านพ่อด้วย ข้าย่อมมีวิธีจัดการกับนังสารเลวนั่น" มู่อี้เสี่ยนัยน์ตาเป็นประกาย ลอบหัวเราะออกมาอย่างเงียบงัน
'มู่หรูเยว่ เจ้าปฏิเสธที่จะเดินบนเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่กลับยืนกรานที่จะเดินสู่หนทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม ในเมื่อเจ้าเป็นฝ่ายรนหาที่ตายเอง ข้าย่อมช่วยสงเคราะห์เจ้า แต่ขืนปล่อยให้เจ้าตายง่ายๆกก็คงสบายเกินไป....'
หลังจากหลิ่วหวนจากไป มู่อี้เสี่ยก็นำนกหวีดออกมา นี่เป็นของที่ชายหนุ่มผู้หนึ่งมอบให้เป็นสิ่งตอบแทนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
ความจริงแล้วมู่อี้เสี่ยไม่รู้ว่านางไปช่วยชีวิตเขาได้อย่างไร วันนั้นนางแค่ผ่านไปยังเรือนด้านหลังของตระกูลมู่ และได้พบกับชายผู้นั้นนอนป่วยอยู่บนเตียงโดยบังเอิญ
เมื่อชายผู้นั้นลืมตาตื่นขึ้นก็ขอบคุณที่นางช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เขายังกล่าวอีกว่าหากในวันหน้านางต้องการความช่วยเหลือให้เป่านกหวีดนี้เพื่อเรียกเขา เขายินดีที่จะตอบแทนนางครั้งหนึ่ง
เมื่อสบโอกาสอันดีเช่นนี้ มู่อี้เสี่ยย่อมไม่เสียเวลาอธิบายให้ยุ่งยาก นางรับคำขอบคุณที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ด้วยความยินดี
---
TL: ตอนที่แปลๆอยู่ เพื่อนก็ให้คำจำกัดความขององค์ชายแอ๊บแบ๊ว ด้วยเพลงท่อนนึง 'อยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว ไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น~' นี่ถึงกับลั่น ไปต่อไม่ถูกเลยค่ะ =_=;
ไหนๆก็ไหนๆ เอ๊า เพลงมา >> Youtube << บันเทิงก่อนไปซ้อมหนีไฟต่อ
ปล. เฟิ่งจิงเทียนจะโผล่มาตอนหน้า รอกันหน่อยนะคะ ช่วงนี้หาเวลาอู้ไม่ค่อยได้ ตอนแรกจะแปลคำว่า 妖孽 ในชื่อตอนว่านางมารยา แต่เอ๊ะ~ หล่อนเป็นตัวผู้จะมาแร่ดแข่งกับชะนีในเรื่องนี้ไม่ได้นะ(!?)
posted from Bloggeroid
ชายลึกลับคนนั้นหรูเย่วเป็นคนช่วยไว้ไม่ใช่รึ
ReplyDeleteโดนสวมรอยซะแล้ว
555+ เออใช่ๆๆๆ เพื่อนคุณเฟย์พูดถูกนะ เจ้าชายแอ๊บแบ๊วนี่.... หึๆๆๆ
ReplyDelete