บทที่ 78 เทียบเชิญงานชุมนุมโอสถ ตอนที่2
อู๋หวีกระแอมไอออกมา พลางเอ่ยต่อ "ศิษย์ข้า ข้าอยากให้เจ้าเป็นม้ามืดในการประลอง เมื่อถึงเวลาสำคัญเจ้าค่อยแสดงความสามารถให้ตาแก่พวกนั้นตกใจจนหงายหลัง"เมื่อคิดถึงสีหน้าของตาแก่พวกนั้นยามที่ตกตะลึง อู๋หวีอดไม่ได้หัวเราะออกมา ใครใช้ให้ตาแก่หัวหน้าสมาคมโอสถเอาแต่โอ้อวดหลานชายของตนต่อหน้าเขาเล่า? ไม่ว่าหลานชายของตาแก่นั่นจะมีพรสวรรค์สูงส่งซักแค่ไหน มีหรือจะเทียบกับศิษย์รักของเขาได้?
มู่หรูเยว่สั่นศีรษะอย่างอ่อนใจ การมีอาจารย์ที่ไม่รู้จักทำตัวเป็นผู้ใหญ่ช่างน่าปวดหัวเสียจริง...
"ข้าควรออกเดินทางเมื่อไหร่ดี?"
"เจ้าควรออกเดินทางตั้งแต่วันนี้ ข้าคำนวณแล้วว่าเจ้าน่าจะใช้เวลาเดินทางไปงานชุมนุมประมาณหนึ่งเดือนพอดี หึหึ! ศิษย์ข้า เจ้าต้องทำตัวดีๆเป็นหน้าเป็นตาให้อาจารย์รู้ไหม"
"วันนี้เลยหรือ?" มู่หรูเยว่กำเทียบเชิญในมือ ก่อนจะผงกศรีษะ "ตกลง ข้าจะไปบอกลาอู๋เฉินก่อนค่อยออกเดินทางไปงานชุมนุมโอสถ"
////////
ภายใต้ต้นท้อ กลีบดอกไม้พัดปลิวและร่วงหล่นลงมากับสายลม...
เย่อู๋เฉินยืนอยู่ท่ามกลางลมสายนั้น กำลังจดจ้องบางสิ่งบางอย่าง กลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นปกคลุมอยู่บนไหล่ของเขาให้ความรู้สึกชวนฝัน ราวกับภาพที่ปรากฏตรงหน้านั้นไม่ใช่ความจริง
"อู๋เฉิน"
น้ำเสียงนุ่มนวลดังจากเบื้องหลัง เย่อู๋เฉินพลันหันกลับไป เมื่อได้เห็นเด็กสาวที่อยู่ด้านหลัง ใบหน้าหล่อเหลาก็พลันคลี่ยิ้มชวนสะกดสายตา
"ชายา ท่านมาแล้ว..."
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มู่หรูเยว่เริ่มเคยชินกับคำเรียกหาของเขา นางค่อยๆเปิดใจรับความจริงใจของเขาที่มีต่อนาง นับตั้งแต่เขารู้ว่านางอาศัยอยู่ที่นี่ เขาก็ยืนกรานจะอยู่ร่วมกับนาง ถึงขนาดยอมชงน้ำร้อนน้ำชา คอยอุ่นเตียงให้ ไม่เว้นกระทั่งยอมทำนู่นทำนี่ตามคำสั่งของนางราวกับคนโง่งม
"อู๋เฉิน ข้ามาบอกลาเจ้า..." มู่หรูเยว่เงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่าใบหน้าของเย่อู๋เฉินช่างหล่อเหลาสะดุดตายิ่งนัก
ผิวกายของเขาขาวจัด แต่ไม่ได้ขาวอย่างคนอมโรค แต่เป็นสีขาวนวลราวกับน้ำนม อีกทั้งนัยน์ตาที่กระจ่างใสบริสุทธิ์คู่นั้น ยิ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์สะกดสายตา เปลือกตาของเขาหรุบลงเล็กน้อย จ้องมองนางอย่างน่าสงสารราวกับลูกสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง
"ชายาจะไปไหนหรือ? ท่านจะจากไปตลอดกาลเหมือนเสด็จพ่อเสด็จแม่หรือไม่?"
มู่หรูเยว่รู้สึกใจอ่อนยวบ นางไม่อาจทำร้ายจิตใจเขาได้...
"ข้าแค่ออกไปจัดการธุระบางเรื่อง ไม่นานก็กลับมาแล้ว"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่อู๋เฉินถอนใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหามู่หรูเยว่ หัวใจของนางพลันเต้นแรงขึ้นกะทันหัน พวกเขายืนอยู่ใกล้กันมากเสียจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย
รูปโฉมของเย่อู๋เฉินช่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติแม้ว่านางจะจ้องมองเขาในระยะประชิด ริมฝีปากที่เม้มหากันเล็กด้วยความน้อยใจของเขาค่อยเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
"อู๋เฉิน.... อื้อ......"
นางยังไม่ทันได้พูดจบประโยค ริมฝีปากของเขาก็ประทับลงมา
จุมพิตนี้ไม่เหมือนกับการแตะริมฝีปากอย่างผิวเผินเฉกเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ เย่อู๋เฉินมอบจุมพิตให้นางอย่างเงอะงะไม่ประสีประสา มู่หรูเยว่ร่างกายสั่นสะท้านก่อนจะผลักรีบผลักเย่อู๋เฉินออกไป
นางหรี่ตามองใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มที่บัดนี้เป็นสีแดงเรื่ออย่างครุ่นคิดแต่ไม่เอ่ยคำ สีหน้าของนางในยามนี้ยากที่จะคาดเดาถึงอารมณ์ของนางได้
"ช... ชายา...." เย่อู๋เฉินรู้สึกตื่นตระหนก ดูเหมือนว่าเขาจะทำเกินเลยกับหญิงสาวตรงหน้ามากไปสักหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นเขาลืมได้อย่างไรว่านางไม่ใช่หญิงสาวธรรมดาทั่วไป เป็นไปได้หรือไม่ว่านางอาจจะคาดเดาบางสิ่งบางอย่างออก?
"ก่อนหน้านี้ในอุทยานหลวง ข้าเห็นองค์ชายฮวากดนางกำนัลลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ทำเช่นนี้..."
เย่อู๋เฉินก้มหน้าลงราวกับสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป...
--------
TL: ค้างกันแน่ๆ เค้าก็ค้าง กินกาแฟจนตาค้างงง @_@~
#segafredo@ctw 1แถม1 บ่ายถึงห้าโมงเย็นถึง4ธันวานี้นะนาง ได้ค่าโฆษณากับเค้ามั๊ย กาแฟฟรีซักสองถุงก็ยังดี♡
ปล. รู้สึกว่าควร level up จากสาวใช้ (ในวัง) เป็น นางกำนัล จะแอบย้อนกลับไปแก้ไขบางตอนนะคะ
ค้าง..จริงๆ ค่าาาาา
ReplyDeleteใจเย็นนะคะ กินเนื้อย่างเสร็จจะกลับไปแปลต่อ >_<
Deleteไม่ต้องหักโหมมากเกินไปนะครับ แค่แปลมาให้อ่านก็ดีใจจะตายอยู่แล้ว ^__^
Deleteเฉินเฉินช่างเจ้าเล่ห์นัก
ReplyDeleteจริงๆ น่าจะเปรียบเทียบให้ดีกว่านี้นิดหนึ่ง... เหมือนนางเอกโดนดูถูกเลยอ่ะ แต่ก็เอาเหอะ รีบร้อนแก้ตัวก็เงี๊ย
ReplyDeleteพยายามต่อไปเฉินเออร์
ReplyDelete