บทที่ 63 เทียนหยวนมาเยือน
ภายในห้องโถงตระกูลมู่ เทียนหยวนได้ยินเสียงของแตกดังมาจากที่ไกลๆ เขาขมวดคิ้วพลางเอ่ยอย่างแดกดัน "บุตรสาวของท่านช่างอารมณ์ร้อนเสียจริง แค่เสียงทำลายชุดเครื่องชายังดังมาไกลขนาดนี้"มู่ชิงสีหน้าแดงก่ำไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ทำได้แต่คลี่ยิ้มพลางเอ่ย "ท่านอาจารย์เทียนหยวน ลมอะไรหอบท่านมาถึงที่นี่?"
เขาวางถ้วยน้ำชาลง เทียนหยวนเหลือบมองมู่ชิงด้วยสายตาเฉยเมย "ข้ามาตามหามู่หรูเยว่ ท่านชวนนางกลับตระกูลมู่แล้วไม่ใช่หรือ?"
"เรื่องนั้น..." มู่ชิงปาดเหงื่อเย็นเฉียบ ก่อนจะเอ่ยอย่างนอบน้อม "ข้าตามหานางเจอแล้ว แต่นางไม่ยอมกลับมา ดูเหมือนว่านางจะคำนับชายชราท่าทางไม่แยแสผู้นั้นเป็นอาจารย์ ชายชราผู้นั้นไม่ยอมให้นางยุ่งเกี่ยวกับตระกูลมู่อีก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่ไว้หน้าสำนักชิงหยุน ถึงกับกล่าวว่าหากคนของสำนักชิงหยุนมา เขาจะทำให้คนพวกนั้นต้องร่ำร้องขอความเมตตาให้เขาไว้ชีวิต"
เทียนหยวนคลี่ยิ้มเย็น เขาไม่รู้ว่าคำพูดของมู่ชิงเชื่อถือได้แค่ไหน แต่เด็กสาวผู้นั้นต้องเป็นของสำนักชิงหยุนเท่านั้น ผู้ใดก็ไม่อาจแย่งชิงนางไปได้
"บอกข้ามาว่านางอยู่ที่ไหน"
มู่ชิงรู้ว่าเทียนหยวนไม่ได้เชื่อถือคำพูดของเขาทั้งหมด แต่ในยังคงตั้งใจจะแวะไปหานาง ดูเหมือนว่าชายชราผู้นั้นต้องรับผลกรรมที่สาสมแล้ว
เมื่อคิดเช่นนั้น มู่ชิงรีบร้อนบอกที่อยู่ให้แก่เทียนหยวน เทียนหยวนไม่รู้ว่าอู๋หวีมีบ้านพักอยู่ในเมืองเฟิ่งเฉิง เขาย่อมไม่คาดคิดว่าชายท่าทางไม่แยแสผู้นั้นที่จริงแล้วคือท่านอาจารย์อู๋หวี
สายตาของท่านอาจารย์อู๋หวีสูงส่งถึงเพียงไหน? ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ของมู่หรูเยว่ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ยังห่างชั้นอีกไกลหากจะอยู่ในสายตาของชายชราผู้นั้น
ภายในเรือนมู่ มู่หรูเยว่ที่เพิ่งตื่นนอนกลับได้พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
บางทีอาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ของเย่เทียนเฟิงและมู่ถิงเอ๋อร์ทำให้นางไม่มีความรู้สึกดีๆต่อเทียนหยวน ในเมื่อนางไม่รู้ว่าเขามาที่นี่ทำไม นางจึงรีบร้อนเรียกสัตว์อสูรของนาง เหยียนจิ้น ออกมา
ไม่นานนัก เงาร่างสีดำพุ่งสู่อ้อมกอดของมู่หรูเยว่ เหยียนจิ้นจ้องมองมู่หรูเยว่อย่างขุ่นเคืองที่เด็กสาวทอดทิ้งเขาไว้ที่ตระกูลมู่เสียนาน และเพิ่งเรียกเขามาในตอนนี้
"เด็กสาวตระกูลมู่ ข้าอยากรับเจ้าเป็นศิษย์ เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร?" เทียนหยวนไม่สนใจจะเหลือบสายตามองสัตว์อสูรสีดำในอ้อมกอดของนางด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่จ้องมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า
ดูจากท่าทางหยิ่งยะโสของเขา ดูเหมือนว่าสำหรับเขาแล้ว การได้เป็นลูกศิษย์ของเขานับเป็นเรื่องน่ายกย่องเป็นอย่างมาก
"ต้องขอโทษด้วย แต่ข้ามีอาจารย์อยู่แล้ว" มู่หรูเยว่คลี่ยิ้มมุมปาก ก่อนจะหัวเราะอย่างเย็นชา "ดังนั้นข้าจึงไม่อาจคำนับท่านเป็นอาจารย์ได้"
เทียนหยวนขมวดคิ้วครู่หนึ่ง พลางเอ่ย "เรื่องนั้นง่ายมาก ข้าแค่มอบยาเลื่อนระดับปฐพีชั้นต้นให้เขา เพื่อแลกกับการให้เจ้ามาเป็นศิษย์ของข้า ดีหรือไม่?"
ระดับของการปรุงยาถูกแบ่งออกเป็นขั้น เริ่มจากระดับสามัญ ระดับปฐพี ระดับโลกา ระดับสวรรค์ และระดับเซียน การปรุงยาระดับเซียนออกมาได้นั้นเรียกว่าเป็นไปไม่ได้ ขนาดผู้ที่สามารถปรุงยาระดับสวรรค์ออกมาได้นั้นยังสามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียว แค่เพียงยาระดับปฐพีก็นับว่าเป็นสิ่งล้ำค่าในหมู่คนทั่วไปแล้ว ดังนั้นเทียนหยวนจึงเชื่อมั่นในยาของเขามาก
"ยาเลื่อนระดับปฐพีชั้นต้นยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้นเลยหรือ?" มู่หรูเยว่คลี่ยิ้มให้เทียนหยวน นางสามารถปรุงยาระดับนั้นออกมาได้มากมายในการหลอมยาเพียงครั้งเดียว
"ยาขั้นปฐพีนั้นยอดเยี่ยมมาก ไม่เพียงสามารถรักษาอาการบาดเจ็บ ยังสามารถฟื้นฟูพลังและช่วยเลื่อนระดับวิทยายุทธ์สู่ขั้นถัดไป ตอนนี้อาจารย์ของเจ้าอยู่ที่ไหน? พวกเราไปหาเขากัน"
มู่หรูเยว่รู้สึกขบขันจึงสั่นศีรษะไปมา ในตอนที่นางกำลังจะเอ่ยตอบ น้ำเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางหน้าบ้าน "ผู้ใดต้องการพบข้า? เจ้าตามหาข้าทำไม?"
โถ.. ท่านผู้เฒ่า ที่แท้ก็โดนทิ้ง ถถถถ
ระดับขั้นของนักปรุงยา: ระดับสามัญ ระดับปฐพี ระดับโลกา ระดับสวรรค์ และระดับเซียน (人阶,地阶,凡阶,天阶,神阶 ) (แก้ไขเมื่อ: 27/11/2016)
บทที่ 64 ท่านอาจารย์อู๋หวีผู้เกรี้ยวกราด
ทันทีที่อู๋หวีก้าวเข้ามาในเรือนมู่ เขาได้ยินว่าใครบางคนกำลังตามหาเขา เขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่าใครกันที่ตามหาเขา เมื่อเขาจ้องมองอีกฝ่ายก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น "เทียนหยวน เจ้าตามหาข้าหรือ?""อ๊ะ!" เทียนหยวนรู้สึกตะลึงไปครู่ใหญ่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ "เปล่า... ท่านอาจารย์อู๋หวี ข้าไม่ได้ตามหาท่าน"
'ทำไมท่านอาจารย์ถึงอยู่ที่นี่? หรือว่าเขาตามหาข้าด้วยธุระบางอย่าง? แต่ดูจากสถานการณ์แล้วเหมือนจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น'
อู๋หวีจ้องมองเขาอย่างแปลกใจ "เจ้าไม่ได้พูดว่ากำลังตามหาอาจารย์ของนังหนูเยว่หรอกหรือ?"
"ถูกต้อง ข้ากำลังตามหาอาจารย์ของนางอยู่" เทียนหยวนพยักหน้า ฉับพลันก็เริ่มเข้าใจได้ลางๆ เขาเบิกตากว้าง เอ่ยถามอย่างประหลาดใจ "หรือว่าท่านอาจารย์เป็น..."
ไม่จริงใช่หรือไม่? หรือว่าท่านอาจารย์อู๋หวีเป็นอาจารย์ของนาง? จบกัน ครั้งนี้เขาแย่แน่ๆ เจ้าโง่ตระกูลมู่ทำให้เขาต้องเจอปัญหาเสียแล้ว
หน้าผากของเทียนหยวนเต็มไปด้วยเหงื่ออันเย็นเฉียบ เขาสบถด่ามู่ชิงในใจหลายร้อยครั้ง ทำไมเจ้าโง่นั่นถึงไม่อธิบายให้ชัดเจนกว่านี้? ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าคิดที่จะขโมยลูกศิษย์ของท่านอาจารย์อู๋หวีเป็นแน่
ไม่เพียงเท่านั้นเขายังรนหาที่ตายด้วยการคิดติดสินบนด้วยยาเลื่อนระดับปฐพีชั้นอีก?
"อาจารย์ เมื่อครู่เขากล่าวว่าต้องการรับข้าเป็นศิษย์ด้วยการใช้ยาเลื่อนระดับปฐพีชั้นต้นมาติดสินบนท่าน" มู่หรูเยว่ยักไหล่พลางคลี่ยิ้มมองเทียนหยวนที่สั่นเทาด้วยความกลัว
"ท่าน ท่านอาจรย์อู๋หวี โปรดฟังข้าอธิบายก่อน"
เมื่อเห็นสีหน้าเข้มจัดของอู๋หวีหลังจากได้ยินคำพูดของมู่หรูเยว่แล้ว เทียนหยวนก็รู้สึกเหมือนแข้งขาอ่อนยวบแทบจะคุกเข่าลงตรงหน้า
ในตอนนี้เทียนหยวนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เหตุใดเขาจึงไม่ตรวจสอบเรื่องนี้ให้แน่ชัดก่อนค่อยมาที่นี่?
"ท่านอาจารย์ ข้าไม่รู้ว่านางเป็นศิษย์ของท่าน ไม่อย่างนั้นต่อให้กล้ากว่านี้อีกร้อยเท่าข้าก็ไม่กล้าขโมยตัวนางไปจากท่าน" เทียนหยวนสีหน้าเศร้า เขาในตอนนี้ไม่หลงเหลือท่าทางน่าเกรงขามอีกต่อไปแล้ว
"เทียนหยวน เจ้ากล้ายิ่งนัก!" อู๋หวีจ้องมองเทียนหยวนด้วยสายตาโกรธจัด พร้อมทั้งเอ่ยเสียงเกรี้ยวกราด "เจ้ากล้าขโมยศิษย์ของข้าหรือ? ส่วนไหนของเจ้าที่คู่ควรกับการเป็นอาจารย์ของนางบ้าง? ไม่พอเจ้ายังคิดใช้ยาขั้นปฐพีมาติดสินบนข้า? ฝันไปเถอะ! ข้าจะบอกเจ้ารู้ว่าลูกศิษย์ของข้าเป็นยอดอัจฉริยะที่ข้าตามหา นางยอดเยี่ยมขนาดที่สามารถเลื่อนสู่ระดับปฐพีได้ในเวลาไม่กี่เดือน! ในขณะที่เจ้าต้องใช้เวลากว่ายี่สิบปีในการเลื่อนสู่ระดับนั้น! เจ้ามีสิทธิอะไรมาขโมยลูกศิษย์ของข้า?"
ถึงเขาจะรู้อยู่แล้วว่ามีหลายคนจากสำนักชิงหยุนต้องการจะขโมยลูกศิษย์ของเขา แต่เรื่องนั้นกับเรื่องนี้ไม่เหมือนกัน เมื่อได้เห็นเหตุการณ์เกิดขึ้นตรงหน้าเขาก็รู้สึกเกรี้ยวกราดจนแทบจะแยกร่างของเทียนหยวนออกเป็นชิ้นๆ
เทียนหยวนรู้สึกกลัวจนร่างกายสั่นเทาไม่หยุด...
คนไร้ค่าแห่งตระกูลคือยอดอัจฉริยะที่อู๋หวีตามหา? นางคือผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับไร้สีและพลังจิตมหาศาลผู้นั้น?
เฟิงเอ๋อร์ทอดทิ้งหญิงที่พิเศษเช่นนี้เพียงเพื่อไปเลือกมู่ถิงเอ๋อร์?
เขาเคยคิดว่ามู่ถิงเอ๋อร์เป็นเด็กสาวที่ไม่เลวนัก แต่เมื่อเทียบกับเด็กสาวผู้นี้แล้วช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว
"ท่านอาจารย์อู๋หวี เป็นพวกตระกูลมู่ยุยงให้ข้ามาที่นี่ ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่านางเป็นศิษย์ของท่าน เห็นแก่ความไม่รู้ของข้า ท่านยอมให้อภัยข้าสักครั้งได้หรือไม่? ต่อไปข้าไม่กล้าทำเช่นนี้อีกแล้ว" เทียนหยวนสีหน้าซีดเผือด นึกอยากกลับไปสั่งสอนเจ้าพวกตระกูลมู่ใจแทบขาด
เป็นเพราะเจ้าโง่นั่นทำให้เขาต้องเจอเรื่องยุ่งยากถึงเพียงนี้...
"โทษตายละเว้นได้ แต่โทษเป็นละเว้นไม่ได้! เจ้าจงกลับไปที่สำนักชิงหยุนเก็บตัวสำนักผิดที่ภูเขาต้องห้ามเป็นเวลาสองเดือน หากไม่มีคำสั่งข้าห้ามออกมา ยังมี... เรื่องที่นางเป็นศิษย์ของข้าห้ามไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้เป็นอันขาด รวมถึงศิษย์ของเจ้าด้วย ทางที่ดีเจ้าควรลืมเรื่องในวันนี้ซะ" อู๋หวีแค่นเสียงเย็นชา "หากข้ารู้ว่าเรื่องนี้หลุดออกจากปากเจ้า เพิ่มโทษจากสองเดือนเป็นหนึ่งปี!"
เทียนหยวนร่างกายสั่นสะท้านอีกครา หากต้องเข้าไปที่ภูเขาต้องห้ามล่ะก็ต่อให้เขาไม่ตายก็ไม่แคล้วต้องบาดเจ็บสาหัส....
---
ชูป้ายไฟเชียร์ท่านอาจารย์รัวๆ กู้ดจ๊อบบบค่ะท่านอาจารย์♡ อย่าเพิ่งรีบค้างตอนนี้เพราะถ้าตัดไว้ตอนหน้าค้างกว่าแน่นอน... สองตอนนี้เป็นตอนที่รู้สึกแปลยากมาก ช่วงนี้เริ่มกลับมาเรียนเลิกสามทุ่มตามปกติใกล้จะโดนงานที่พอกไว้ทับตายแหล่ว จะพยายามหาเวลามาลงไม่เกินวันเว้นวันนะคะ
ปล. ไปเจอเวปเทียบเสียงมาเวปนึง ดูน่าสนใจดีค่ะ >> Link << หูตัวเองยังคงเพี้ยนเหมือนเดิม แต่พอเห็นตัวโฟเนติครู้สึกเข้าถึงง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ
posted from Bloggeroid
สมหน้า นางงงง ถถถถ+
ReplyDeleteท่านอาจารย์อู๋หวีช่างฮาร์ดคอร์จริงๆค่ะ
ReplyDeleteใครรังแกลูกศิษย์ข้าไม่ได้
โหหหห แสดงอำนาจให้เห็นชัดๆ ดีๆๆๆ
ReplyDeleteท่านอาจารย์โหดยิ่งนัก ดีมากเลยค่ะ เจ้าคนเย่อหยิ่งแบบนั้น ควรได้รับการสั่งสอน
ReplyDeleteมีความเข้ากันของศิษย์อาจารย์
ReplyDelete