Pages

Last Modified: Monday, October 31, 2016

หมอยาเจ้าเสน่ห์: จอมใจราชาปีศาจ บทที่ 40-42

บทที่40 การแยกจาก ตอนที่2

เมื่อฟังคำถามนั้นมู่หรูเยว่รู้สึกว่าช่างน่าขัน และนางก็หัวเราะออกมาจริงๆ มู่หรูเยว่ใช้สายตาเย็นชาแกมเย้ยหยันจ้องมองมู่ชิง เรื่องนั้น ทำไมไม่ลองถามบุตรสาวที่เก็บมาเลี้ยงของท่านดูเล่า?”
ยามที่มู่หรูเยว่เอ่ยคำว่า ‘เก็บมาเลี้ยง’ นางจงใจเน้นคำนั้นเป็นพิเศษ
มู่หรูเยว่ เจ้ามันเด็กไร้สัมมาคารวะ!” นัยน์ตาของมู่ชิงดุร้ายราวกับอยากจะฉีกทึ้งร่างของลูกสาวคนนี้ให้ตาย ถ้ารู้ว่าเจ้าจะกลายเป็นตัวหายนะอย่างนี้ ข้าคงฆ่าเจ้าทิ้งตั้งแต่ตอนที่เจ้าเกิดมาแล้ว
จากความรู้สึกข้า เด็กสาวตรงหน้าเหมือนไม่ใช่ลูกสาวของข้า เสียดายที่เลี้ยงดูนางมาหลายปี
มู่หรูเยว่หัวเราะขัน สายตาเย้ยหยันของนางทำให้มู่ชิงหัวใจกระตุก เมื่อเขารู้สึกตัวก็แสดงอาการกราดเกรี้ยวจ้องมองมู่หรูเยว่อย่างโกรธแค้น
ในตอนที่เขาตั้งใจจะสั่งสอนนังเด็กดื้อ น้ำเสียงรื่นหูก็ดังขึ้น ชายา ข้าแวะมาเยี่ยมเจ้า
เพียงวูบเดียวร่างที่เคลื่อนกายรวดเร็วดุจเงา เย่อู๋เฉินก็ปรากฏตัวอยู่ข้างกายของมู่หรูเยว่
ในตอนที่มู่อี้เสี่ยจับจ้องเย่อู๋เฉิน นางก็ไม่อาจละสายตาไปไหนได้อีก
ในฐานะของบุตรสาวตระกูลมู่ นางเคยพบปะผู้ชายมากมายแต่ไม่เคยมีผู้ใดหล่อเหลาเท่าเด็กหนุ่มตรงหน้ามาก่อน แม้แต่รัชทายาทที่เป็นคนรักของพี่ถิงเอ๋อร์ยังดูดีไม่ถึงเศษเสี้ยวของเด็กหนุ่มตรงหน้า
เด็กหนุ่มดูเปล่งประกายราวกับแสงจันทร์ที่แม้แต่หญิงงามก็ยังไม่อาจเทียบเคียงกับความหล่อเหลางดงามที่ชวนตื่นตะลึงของเขา ในขณะนั้นมู่อี้เสี่ยมัวแต่จดจ้องเด็กหนุ่มชุดขาวที่ราวกับหลุดมาจากภาพวาดด้วยความตื่นตะลึง
ทำไมถึงมีบุคคลที่หล่อเหลาถึงเพียงนี้ด้วย?’
มู่อี้เสี่ยหัวใจเต้นระรัวราวกับกระดอนออกจากหน้าอก นัยน์ตาทั้งสองข้างจับจ้องเด็กหนุ่มอย่างหลงใหลราวกับบนโลกนี้มีเพียงเขาคนนั้น...
ที่ผ่านมามีชายหนุ่มมากมายห้อมล้อมนาง แต่สายตาของมู่อี้เสี่ยนั้นตั้งมาตรฐานไว้สูงเกินไปจนไม่เคยมีชายใดอยู่ในสายตามาก่อน
ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าทำไมสวรรค์ไม่ยอมให้ข้าตกหลุมรักผู้อื่น นั่นเพราะข้ารอมาตลอด ใครจะคู่ควรกับเด็กหนุ่มที่หล่อเหลาผู้นี้ไปมากกว่าข้า?’
นี่ย่อมเป็นพรหมลิขิตให้ข้ากับเขาเกิดเป็นคู่รักกัน
เจ้ามาได้อย่างไร?” มู่หรูเยว่มีท่าทีงงงวย เย่อู๋เฉินไม่ใช่สติไม่สมประกอบหรอกหรือ? เขามาที่ตระกูลมู่ถูกได้อย่างไร?
เย่อู๋เฉินก้มหน้าอย่างเอียงอาย เอ่ยเสียงแผ่ว ข้าอยากเจอท่าน ก็เลยมาหา
แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีทางบอกนางไปตรงๆว่า เขาไม่อาจระงับความกังวลเกี่ยวกับนางได้ แต่คำพูดนั้นกลับยิ่งทำให้มู่หรูเยว่สงสัย พวกเราไม่ได้เพิ่งพบกันเมื่อครู่หรอกหรือ?
มู่หรูเยว่ เขาเป็นอะไรกับเจ้า?” มู่อี้เสี่ยจับจ้องมู่หรูเยว่อย่างขุ่นเคือง สายตาขอนางราวกับต้องการฉีกกระชากมู่หรูเยว่ออกเป็นชิ้นๆ
มู่อี้เสี่ยไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อเห็นคนทั้งสองสนทนากัน เธอก็รู้สึกคล้ายของที่เป็นของนางกำลังจะถูกแย่งชิงไป ความเกลียดชังต่อมู่หรูเยว่ในจิตใจจึงเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน
เขาเป็นของข้า เป็นของข้าเพียงผู้เดียวมู่หรูเยว่ที่กระทั่งบิดายังไม่รักมีค่าอะไรคู่ควรกับเขา? เพียงประโยคเดียว ท่านพ่อย่อมยกเด็กหนุ่มผู้นี้ให้ข้า
เจ้าคิดว่าเขาเป็นอะไรกับข้าล่ะ?” มู่หรูเยว่ยักไหล่ โยนคำถามกลับไปที่มู่อี้เสี่ย
ใบหน้าของมู่อี้เสี่ยเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ นัยน์ตาคมกริบราวกับใบมีดจ้องตรงไปที่มู่หรูเยว่ นางตั้งใจจะตอบโต้หากแต่ถูกมู่ชิงห้ามไว้เสียก่อน
หางคิ้วของมู่ชิงเลิกขึ้นเล็กน้อย เขาจับจ้องเย่อู๋เฉินด้วยสายตาเย็นชา คุณชายท่านนี้ ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร เหตุใดจึงบุกเข้ามาในตระกูลมู่ของข้า?”

บทที่41 การแยกจาก ตอนที่3

เย่อู๋เฉินขมวดคิ้วเรียวงามขณะจ้องมองมู่หรูเยว่อย่างงุนงง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเฉยเมยราวกับไม่รับรู้เหตุการณ์ตรงหน้า นัยน์ตาใสกระจ่างดูบริสุทธิ์เสียจนชวนให้สงสัยว่าเขากำลังแสแสร้งหรือไม่ เขาเอ่ยถาม ชายา ท่านลุงผู้นี้เป็นใครหรือ? เหตุใดเขาถึงเรียกข้าว่าคุณชาย? คุณชายคืออะไร? ทานได้หรือไม่? ท่านลุงผู้นี้ช่างโง่เสียจริง เขาถามว่าข้ามาที่นี่ทำไม? แน่นอนข้าย่อมมาหาชายาของข้า ข้าจะมาหาเขาทำไมหรือ? ได้ยินผู้อื่นพูดกันว่าท่านลุงผู้นี้ไม่ใช่คนดี ชอบเอารัดเอาเปรียบผู้คน
ได้ยินคำพูดนั้น สีหน้าของมู่ชิงเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ
เหลวไหลลืมแล้วหรือว่าชายที่เจ้าต้องแต่งงานด้วยคือกุ่ยหวัง? เจ้ากล้าสนิทสนมกับชายอื่นได้อย่างไร? ข้าต้องสั่งสอนเจ้าให้รู้ว่ากุลสตรีที่ดีต้องทำตัวอย่างไร!
มู่ชิงยกมือทำท่าจะตบสั่งสอนมู่หรูเยว่ แต่ในขณะเดียวกัน เย่อู๋เฉินคล้ายกับว่าเหลือบสายตามองมู่ชิงโดยบังเอิญ ทันใดนั้นเอง ตึงมู่ชิงพลันคุกเข่าลงเบื้องหน้ามู่หรูเยว่
ชายา ทำไมท่านลุงต้องคุกเข่าให้ท่านด้วย?” เย่อู๋เฉินกระพริบนัยน์ตาใสบริสุทธิ์ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อสายตาของเขาสบกับนัยน์ตาของมู่หรูเยว่ที่จ้องมองมาด้วยความสงสัย หัวใจเขาก็เต้นรัว ‘บางทีข้าอาจจะทำเกินไป หรือว่านางจะดูข้าออก?’
ชายา?” เย่อู๋เฉินกระพริบตาพลางจับจ้องมู่หรูเยว่ด้วยนัยน์ตาใสซื่อที่ชวนให้หลงไหล
เมื่อเห็นท่าทางที่ราวกับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นของเขา มู่หรูเยว่จึงคลายความสงสัย บางทีนางอาจจะคิดมากไปเอง
ถ้าเย่อู๋เฉินแสร้งทำจริงๆ ความสามารถในการหลอกลวงของเขาต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่
เมื่อคิดแบบนั้น มู่หรูเยว่ก็คลี่ยิ้มให้มู่ชิงที่กำลังคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า ท่านพ่อ ลุกขึ้นเถิด ท่านอย่าทรมานข้าแบบนี้เลย อ้อจริงสิ คำว่ากุลสตรีที่ดีควรสอนน้องถิงเอ๋อร์แทนจะดีกว่า นางยังไม่แต่งงานแต่ก็มอบความบริสุทธิ์ให้เย่เทียนเฟิงเสียแล้ว หรือว่านั่นคือวิสัยของกุลสตรีที่ดี ดูเหมือนว่าเรื่องนั้นท่านพ่อเป็นคนอนุญาตอย่างลับๆเองไม่ใช่หรือ?”
ถึงแม้ว่ามู่หรูเยว่กำลังคลี่ยิ้ม แต่ดูเหมือนว่ารอยยิ้มนั้นจะไม่สามารถทำให้สายตาเย็นชาคู่นั้นของนางดูอ่อนลง
เหงื่อเย็นเยียบไหลข้างศีรษะของมู่ชิง เขากำหมัดแน่นขณะลุกขึ้นยืน ความอัปยศเข้าเกาะกุมจิตใจ
มู่หรูเยว่!” มู่ชิงตะโกนอย่างโกรธจัด คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!
เธอทำราวกับไม่ได้ยินเสียงตะโกนของมู่ชิง ริมฝีปากของมู่หรูเยว่ขยับยิ้มมุมปาก สายตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
เยี่ยมเยี่ยมมากมู่ชิงโกรธเสียจนหัวเราะออกมา ในเมื่อเจ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของข้า ข้าจะขับไล่เจ้าออกจากตระกูลมู่ และลบชื่อของเจ้าออกจากบันทึกของตระกูล
เขาคิดว่าด้วยคำขู่ของเขาจะทำให้มู่หรูเยว่หวาดกลัวจนยอมคุกเข่าร้องขอขมาต่อให้เขา แต่นางกลับไม่เป็นเช่นนั้น นางเพียงคลี่ยิ้มจ้องมองเขา รอยยิ้มที่ชวนให้หวั่นวิตก
ตกลง เป็นการตัดสินใจที่ดียิ่ง ไหนๆข้าก็ไม่อยากอยู่ที่นี่อยู่แล้ว
มู่หรูเยว่ทำราวกับไม่เห็นสีหน้าซีดเผือดของมู่ชิง นางหมุนตัวกลับพร้อมคลี่ยิ้มให้เย่อู๋เฉิน ดึงเขาเดินไปด้วยกันอย่างเงียบเชียบ
ตึง!
มู่ชิงยกมือตบโต๊ะอย่างแรงจนโต๊ะแตกออกเป็นสองส่วน เขาดูเหมือนไม่รับรู้ถึงอาการเจ็บแปลบที่ฝ่ามือ นัยน์ตาของเขามัวแต่จับจ้องร่างของมู่หรูเยว่ที่เดินจากไป เขากัดฟันกรอด เอ่ยตะคอก มู่หรูเยว่แล้วเจ้าจะเสียใจภายหลัง
เสียใจ?’ มู่หรูเยว่ยิ้ม ‘ข้าไม่รู้ว่าอะไรคือเสียใจตั้งแต่วันแรกที่ข้าเกิดมาแล้ว
ท่านพ่อมู่อี้เสี่ยยังคงจับจ้องแผ่นหลังของเย่อู๋เฉินอย่างหลงใหล นางเอ่ยอย่างลำพอง ข้าชอบคนผู้นั้น ข้าอยากแต่งงานกับเขา!

บทที่42 ข้าจะแต่งกับเขา!

มู่ชิงเมื่อได้ยินคำพูดของบุตรสาว เขายังโกรธจัดจึงปฏิเสธนางทันที ไม่ได้ ชายผู้นั้นไม่คู่ควรกับเจ้า ลูกสาวของข้าจะมีสามีเป็นคนแบบนั้นได้อย่างไร? มีแต่คนโง่อย่างมู่หรูเยว่เท่านั้นที่กล้าคบกับคนแบบนั้น อย่างน้อยเขาก็ยังดีกว่ากุ่ยหวังที่หน้าตาอัปลักษณ์จนไม่มีให้กล้าเข้าใกล้
ถึงแม้มู่ชิงจะเป็นถึงประมุขตระกูลมู่ แต่นอกเหนือจากองค์ชายบางองค์และเหล่าเชื้อพระวงศ์แล้ว ไม่มีใครเคยพบเห็นกุ่ยหวังผู้นั้นมาก่อน เนื่องจากในบรรดาเชื้อพระวงศ์เองก็เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีและอุบายชั่วร้าย ย่อมไม่มีใครใส่ใจมาลบล้างข่าวลือเหล่านั้น
ส่วนข้ารับใช้ในตำหนักต่างก็หวาดกลัวกุ่ยหวังจนตัวสั่น มีหรือจะกล้าเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขา?
ทำไมเล่า?” มู่อี้เสี่ยทำแก้มพองลม เอ่ยด้วยท่าทีจริงจัง ข้าไม่สน ข้าจะแต่งงานกับเขา เรื่องอะไรข้าต้องยอมให้มู่หรูเยว่ขโมยชายที่หล่อเหลาถึงเพียงนั้นไป? นางไม่คู่ควรด้วยซ้ำ!
มู่ชิงขมวดคิ้วรู้สึกอับจนปัญญาที่จะเกลี้ยกล่อมบุตรสาวของตน
เสี่ยเอ๋อร์ ชายผู้นั้นดูไม่เป็นวิทยายุทธ์ด้วยซ้ำ ถ้าเขาไม่ใช่คนไร้ค่าก็พลังของเขาก็ต้องอ่อนแอมาก ยิ่งไปกว่านั้น สมองของเขาก็ดูไม่ปกติ ข้าจะยอมให้เจ้าแต่งงานกับคนโง่ได้อย่างไร?”
เมื่อเอ่ยประโยคนั้น มู่ชิงก็ชะงัก เขาเป็นคนโง่ กุ่ยหวังเองก็เป็นคนโง่ หรือว่าคนทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกัน?”
ท่านพ่อ ท่านไม่ได้หมายความว่าเขาคือกุ่ยหวังใช่หรือไม่?” มู่อี้เสี่ยทำปากยื่น เอ่ยต่ออย่างรังเกียจ กุ่ยหวังมีหน้าตาอัปลักษณ์น่ารังเกียจ ชายผู้นั้นจะเป็นกุ่ยหวังไปได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นเขาแค่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาไม่ได้โง่เสียหน่อย ชายหล่อเหลาผู้นั้นย่อมไม่ใช่กุ่ยหวัง คู่หมั้นของมู่หรูเยว่เด็ดขาด ท่านพ่อข้าไม่สนว่าเขาจะไร้ค่าหรือไม่ ข้าอยากแต่งกับเขา ถ้าท่านไม่อนุญาต ข้าจะหนีออกจากบ้าน
เพียงสบตาชายผู้นั้นเพียงครั้งเดียว มู่อี้เสี่ยก็ตัดสินใจว่าจะไม่แต่งกับใครนอกจากเขาเท่านั้น
ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาเสียจนสามารถสะกดให้ผู้คนยอมสยบแทบเท้าผู้นั้น ต้องเป็นของข้าเพียงผู้เดียว
ได้ได้พ่อรับปากเจ้า ตกลงไหม?” มู่ชิงลูบศีรษะเธออย่างรักใคร่ พลางคลี่ยิ้ม ไม่ต้องกังวลไป เพียงคำพูดของพ่อคำเดียว ผู้ใดกล้าไม่แต่งงาบกับเจ้า? คนผู้นั้นวิทยายุทธ์ดูอ่อนด้อย ย่อมไม่ได้มาจากตระกูลขุนนาง พ่อจะตามหาครอบครัวของเขามอบเหรียญทองให้ซักหน่อย พวกเขาย่อมยอมยกลูกชายให้ตระกูลมู่แน่นอน
มู่ชิงคลี่ยิ้มอย่างมั่นใจ ด้วยเหรียญทองเพียงไม่กี่เหรียญก็เพียงพอที่จะให้ครอบครัวเล็กๆใช้สอยได้อีกหลายปี ผู้ใดจะอดทนต่อสิ่งล่อลวงอย่างเหรียญทองได้เล่า?
เขาไม่ได้เฉลียวใจแม้แต่น้อยว่าเย่อู๋เฉินเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ อีกทั้งยังมีกำลังอำนาจเหนือกว่าตระกูลมู่ไม่รู้กี่เท่าเพียงแต่เรื่องนั้นถูกเก็บไว้เป็นความลับ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เลยว่าด้วยคำพูดดื้อดึงของเขาจะนำหายนะมาสู่ตัวเองในภายหลัง
ขอบคุณท่านพ่อมู่อี้เสี่ยกอดแขนบิดาอย่างตื่นเต้น เสี่ยเอ๋อร์รู้ว่าท่านพ่อใจดีที่สุด ข้าจะไปอยู่เป็นเพื่อนพี่ถิงเอ๋อร์ก่อน พี่คงเสียใจมาก
เช่นนั้นก็ไปเถอะมู่ชิงลูบศีรษะบุตรสาวพลางคลี่ยิ้ม แต่หลังจากมู่อี้เสี่ยเดินจากไป ใบหน้าของเขาก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันตา
ใครกันที่จงใจใส่ร้ายตระกูลมู่?”
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการประลอง นัยน์ตาของมู่ชิงทอประกายวูบหนึ่ง จะเป็นหยากุ้ยเฟยหรือหญิงที่อิจฉาถิงเอ๋อร์กันนะ?”
ถึงแม้เขาจะสงสัยมู่หรูเยว่ในคราแรก แต่เมื่อลองใคร่ครวญให้ดีแล้วนางย่อมไม่มีความสามารถถึงเพียงนั้น จึงได้ตัดมู่หรูเยว่ออกจากผู้ต้องสงสัยไป
นี่ย่อมเป็นฝีมือของคนที่อิจฉาถิงเอ๋อร์ ข้าต้องสืบหาเรื่องนี้ให้ละเอียด ไม่อย่างนั้นต้องส่งผลต่อการแต่งงานของถิงเอ๋อร์กับรัชทายาทเป็นแน่

3 comments:

  1. โอ้วววว คนเสแสร้งอันดับหนึ่งมาแล้วจ้าาาา

    ReplyDelete
  2. ทำไมพ่อถึงเกลียดลูกในไส้ได้ขนาดนี้นะ แปลกจัง หรือจริงๆแล้ว นางเอกไม่ใช่ลุกพ่อ

    ReplyDelete
  3. ทำไมพ่อกับน้องสาวมันถึงโง่ขนาดนี้ อู๋เฉินเรียกหรูเย่วว่าชายา คนธรรมาดาที่ไหนเค้าเรียกเมียตัวเองว่าชายากัน สงสัยมัวแต่เก้วกราดอยู่5555

    ReplyDelete